วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

1.คุณภาพสินค้า S&P

คุณภาพสินค้า S&P





-  คุณภาพของการบริการ 
ในจุดนี้นั้น S&P ทำได้อย่างยอดเยี่ยมผ่านการบริการของพนักงาน ซึ่งในจุดนี้นั้น หากพนักงานสามารถให้บริการได้อย่างน่าประทับใจแล้ว การที่ผู้บริโภคจะรู้สึกดีกับ Brand ก็มีสูง และก่อให้เกิดการกลับมาใช้บริการอีกครั้งตามมา 

- คุณภาพของอาหาร 
นับว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานเลยสำหรับการทำธุรกิจร้านอาหาร เพราะถ้าร้านอาหารทำอาหารไม่อร่อย ก็ไม่มีผู้บริโภคคนไหนอยากกลับมากินอีก ตรงข้ามกัน หากอาหารนั้นมีคุณภาพดี แม้ราคาจะออกมาสูง ผู้บริโภคก็ยินดีที่จะจ่าย เพื่อให้ได้ของที่ดีที่สุด และในจุดนี้เองที่ S&P ได้ให้ความสำคัญอย่างมาก

4.การบริหารจัดการการขายของS&P

                   การบริหารจัดการการขายของS&P

       การบริหารการขายของธุรกิจจะมี  ดังนี้
-  การจัดโปรโมชั่นในเทศกาลต่างๆ อาจมีการลดราคา  หรือซื้อ 1แถม 1
-  วัตถุดิบที่นำมาใช้จะต้องคำนึงถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด เพื่อผู้บริโภคจะได้ไว้วางใจในตราสินค้า และทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตามลำดับเมื่อลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นต่อสินค้า
-  พนักงานขายก็เป็นสิ่งสำคัญในการบริหารการขาย  ทางS&Pจึงมีการมีการคัดเลือกพนักงาน   ขาย  เเละมีการอบรมพนักงาน  ทำให้พนักงานงานขายบริการลูกค้าได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า เมื่อบริการดี ลูกค้าย่อมอยากที่จะใช้บริการอีก (ซื้อซ้ำ)
-  สถานที่ที่สามารถหาซื้อสินค้าต้องสะดวก  ต้องทั่วถึง  หาซื้อได้ง่าย
-   เน้นคุณภาพเป็นหลักเพราะเชื่อว่า ถ้าสินค้าดี การขายก็ย่อมดีตามไปด้วย
-  ราคาต้องเหมาะสมกับคุณภาพ จะทำให้ลูกค้ายอมรับเเละเลือกบริโภคในที่สุด-มีการเข้าร่วมกับผู้ที่สนับสนุนธุรกิจ  เเล้วลดราคาหรือเงื่อนไขกับธุรกิจนั้นเพื่อเพิ่มยอดขาย เช่น การร่วมมือกับเครือข่ายโทรศัพท์เอไอเอส โดยผู้บริโภคคนใดใช้เอไอเอสจะได้ส่วนลดในการซื้อสินค้าตามที่ตกลงกันไว้










THE  END





วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

3.ความสะดวกในการซื้อ

ความสะดวกในการซื้อ





เนื่องจากร้าน s&pมีสาขาอยู่มากทำให้สะดวกในการหาซื้อและลดเวลาในการหาสินค้าได้ง่ายมากขึ้นความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าร้านs&p คือ ร้านs&p มีระบบการเลือกซื้อหลายแบบทั้งแบบโทรศัพท์ แบบออนไลน์และแบบซื้อด้วยตนเอง แบบทางโทรศัพท์คือ ร้านs&pมีเบอร์ติดต่อให้บริการส่งถึงที่บ้าน ส่วนแบบออนไลน์คือการสั่งสินค้าทางอินเตอร์เน็ตและร้านs&pก็จะมีบริการเดลิเวอร์รี่ให้ถึงที่บ้านเช่นเดียวกับสั่งทางโทรศัพท์ ให้ความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ส่วนแบบซื้อด้วยตนเอง คือ เราสามารถเลือกซื้อที่ร้านและบริโภคที่ร้านได้เลย ความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าในสมัยนี้สะดวกสบายกว่าสมัยก่อนเพราะมีเทคโนโลยีมากขึ้น

2.ความน่าเชื่อถือของตราสินค้า

ความน่าเชื่อถือของตราสินค้า



S&P เป็นที่ได้รับความในนิยม ในหมู่เพื่อนฝูง คนทำงาน และครอบครัว เป็นเพราะวัตถุดิบที่นำมาผลิตเบเกอรี่นั้นเป็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และราคาก็สมเหตุสมผล รสชาติอร่อย เมื่อลูกค้าจะคิดถึงเบเกอรี่ ก็จะนึกถึง S&P เป็นที่ต้นๆ เพราะการที่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตราสินค้าได้นั้น ต้องเริ่มสร้างมาตรฐานให้กับสินค้าก่อน การแจ้งแหล่งกำเนิดวัตถุดิบของสินค้าเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในS&P การแสดงส่วนประกอบของสินค้า เมื่อลูกค้าได้รู้ว่าวัตถุดิบที่ใช้มีคุณภาพและรสชาติอร่อย ก็จะทำให้สินค้าน่าเชื่อไปได้



S&P ประวัติ


ประวัติs&p  ชื่อนี้มีเเต่ความอร่อย

 ร้าน เอส แอนด์ พี เริ่มต้นเมื่อปี 2516 จากร้านขายอาหาร ไอศกรีม และของว่าง ในซอยประสานมิตร สุขุมวิท 23 จากนั้นได้ขยายมาสู่ธุรกิจร้านเบเกอรี่ และเป็นผู้นำในการผลิตเค้กแต่งหน้าตามสั่ง และเค้กลายการ์ตูนรายแรกในประเทศไทย อาหารและเบเกอรี่ของเอส แอนด์ พี ได้รับความนิยมและเชื่อถืออย่างมากจากลูกค้า จนมีการขยายสาขาอย่างรวดเร็วตามแหล่งทำเลที่สำคัญฯ ในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด
     ในปี 2532 บริษัท เอส แอนด์ พี จำกัด จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) บริษัทมีการลงทุนและขยายงานทั้งทางด้านธุรกิจร้านอาหารและการผลิตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แบรนด์ “เอส แอนด์ พี” โดยแบ่งเป็นร้านอาหารเอส แอนด์ พี และเอส แอนด์ พี เบเกอรี่ชอพ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย นอกจากนี้บริษัทยังประสบผลสำเร็จในการนำเสนอและสร้างแบรนด์ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ “ภัทรา” “พาทิโอ” “บลูคัพ” “วานิลลา” และผลิตภัณฑ์ขนมไทย “Simply Thai” รวมทั้งขนมไหว้พระจันทร์ยี่ห้อ “S&P” และ “มังกรทอง”
     สำหรับธุรกิจต่างประเทศ ในปี 2533 บริษัทได้เปิดร้านอาหารไทยแห่งแรกภายใต้ชื่อร้าน “ภัทรา” (Patara Fine Thai Cuisine) ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ประกอบกับความนิยมของอาหารไทยในต่างประเทศมีมากขึ้น จึงมีการขยายร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 บริษัทมีสาขารวม 20 สาขา ภายใต้แบรนด์ Patara, Patio, THAÏ, Siam Kitchen และ Bangkok Jam นอกจากนี้ บริษัทได้อนุญาตให้บริษัท Strategic Brands Network เป็นผู็ดำเนินธุรกิจร้านอาหารไทยภายใต้ลิขสิทธิ์แบรนด์ Thai – Patio มี 1 สาขา ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ในด้านธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บริษทได้ขยายเข้าสู่ธุรกิจอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานและผลิตภัณฑ์ไส้กรอก เพื่อเป็นการตอบสนองต่อทัศนคติและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค แม้ธุรกิจดังกล่าวจะยังมีขนาดตลาดที่ไม่ใหญ่มากนักในปัจจุบัน แต่มีศักยภาพที่จะเติบโตสูงในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทได้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาด้านธุรกิจอาหารสำเร็จรูปอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเน้นจุดแข็งในแง่คุณภาพ รสชาติ และความหลากหลายของเมนู นอกจากนี้ กลุ่มเอส แอนด์ พี ยังเป็นผู้นำในการให้บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่แบรนด์ “Caterman” บริการจัดส่งอาหารถึงบ้าน และบริการอาหารปิ่นโต (Delivery : 1344)
     จากการที่กิจการของเอส แอนด์ พี มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในธุรกิจอาหารและเบเกอรี่ บริษัทได้ก่อสร้างโรงงานเบเกอรี่แห่งแรกที่ถนนสุขุมวิท 62 ในปี 2527 และได้สร้างเพิ่มเติมที่เชียงใหม่ ภูเก็ต และถนนบางนา-ตราดในเวลาต่อมา นอกจากนี้ บริษัทยังได้สร้างโรงงานผลิตอาหารแช่แข็งและผลิตภัณฑ์ไส้กรอกที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังอีกด้วยปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำทางธุรกิจร้านอาหารและเบเกอรี่แบบครบวงจร โดยปัจจัยหลักที่บริษัทยึดถือปฏิบัติมาตลอด 36 ปี คือ การนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพ คัดสรรวัตถุดิบ และผลิตอย่างพิถีพิถัน รวมทั้งความมุ่งมั่นพัฒนาและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่แสดงถึงความใส่ใจของบริษัทในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้ดีที่สุด
                                                                                               ธุรกิจอื่นๆ